การดูแลรักษาเล็บให้แข็งแรงและมีสุขภาพดี

ลักษณะทางกายภาพของเล็บ


   









  เล็บจะประกอบด้วยชั้นโปรตีนที่ห่อหุ้มเล็บไว้ เรียกว่า Keratin ซึ่งจะมีอาณาเขตตั้งแต่บริเวณ Cuticle หรือบริเวณผิวหนังที่ยึดเล็บไว้ เป็นต้นไป เล็บจะมีการเจริญเติบโตและงอกยาวขึ้นบริเวณโคนเล็บ ในขณะที่เซลล์เก่าจะกลายเป็นแข็งและอัดแน่นมากยิ่งขึ้น และงอกไปที่ปลายเล็บ
     เล็บที่มีสุขภาพดี จะมีลักษณะผิวเรียบ ไม่มีร่องหรือขอบที่ผิว นอกจากนี้สีของเล็บก็จะเป็นสีเดียวกันสม่ำเสมอตลอดทั้งเล็บ ไม่มีดอกหรือจุดขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการขาดสารอาหารหรือได้รับอันตรายบริเวณเล็บก็ได้ ลักษณะของเล็บที่ผิดปกติ สามารถบ่งบอกได้ถึงโรคบางชนิดได้ ต่อไปนี้เป็นลักษณะของเล็บที่ผิดปกติที่คุณควรจะรีบไปพบแพทย์
     1. เล็บมีสีเหลืองผิดปกติ
     2. มีการแยกตัวของเล็บกับเนื้อเล็บที่เรียกว่า Nail bed (Oncholysis)
     3. มีรอยบากขวางเล็บ (Beau’s lines)
     4. เล็บมีรอยบุ๋ม หรือโหว่
     5. เล็บมีสีซีดขาวเกินไป
     6. ผิวเล็บเป็นระลอกคลื่น

การบำรุงรักษาเล็บ

     1. อย่าใช้เล็บในทางที่ผิด เช่น การใช้เล็บแคะ แกะสิ่งของบางอย่างที่แข็งเกินไป เพราะอาจทำให้เล็บฉีกขาดได้
     2. อย่ากัดเล็บหรือดึงผิวหนังส่วน Cuticle ออก เพราะจะเป็นการทำลายเนื้อเยื่อฐานเล็บ (Nail bed) ได้ และที่สำคัญถ้าเกิดการฉีกขาดมาก จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ (Paronychia)
     3. บำรุงเล็บให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากอาบน้ำ เพราะเป็นการป้องกันการเจริญของเชื้อโรคต่างๆได้ นอกจากนี้ควรสวมถุงมือหรือรองเท้าบู๊ท ในกรณีที่ต้องย่ำเท้าหรือสัมผัสน้ำเป็นระยะเวลานาน
     4. ตัดเล็บให้เหมาะสม ตัดแล้วรูปทรง อย่าตัดให้ลึกจนเกินไป ควรใช้กรรไกรตัดลบที่คม แนะนำให้ตัดเล็บหลังจากอาบน้ำ เพราะจะทำให้ตัดเล็บได้ง่ายขึ้นและปลอดภัยด้วย
     5. สวมใส่รองเท้าขนาดที่เหมาะสม รองเท้าที่คับจนเกินไป จนไปบีบเท้ารวมทั้งเล็บด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อการงอกของเล็บได้
     6. ทาโลชั่นประเภท Hand Cream ที่บำรุงมือและเล็บด้วย โดยแนะนำให้ทาหลังจากตัดเล็บแล้ว
     7. คอยสังเกตปัญหาของเล็บ เพราะอาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางชนิด ซึ่งควรจะรีบไปพบแพทย์

การบำรุงดูแลเล็บสำหรับผู้ที่ทาเล็บเป็นประจำ

     ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเข้าร้านทำเล็บ หรือชอบทาสีสันบนเล็บเป็นประจำ เราขอแนะนำให้คุณใส่ใจกับเล็บมากกว่าปกติ เพราะการทาเล็บและล้างเล็บด้วยน้ำยาสารเคมีต่างๆ จะทำให้ Cuticle ของเล็บหลุดออกได้ และทำให้เกิดการติดเชื้อราหรือแบคทีเรียได้ ซึ่งสิ่งที่คุณสาวๆ ควรพึงระวังไว้ก็คือ ควรเลือกร้านทำเล็บที่สะอาด ใช้อุปกรณ์ที่ดีผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว

     ผลที่ตามมาได้ง่าย จากการทำเล็บด้วยน้ำยาเคมีนั้น ก็คือ ปัญหาเล็บแตกหรือฉีก ซึ่งสำหรับผู้ที่กำลังประสบดงกล่าว เราขอเสนอวิธีการป้องกันดังต่อไปนี้
     1. ควรตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ โดยควรตัดให้ได้รูปทรง แนะนำให้ตัดหลังจากอาบน้ำ และเมื่อตัดเสร็จแล้วควรใช้ครีมทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นตามไปด้วย
     2. ควรทาครีมทามือภายหลังจากที่มือเปียก เพราะผิวที่เปียกจะช่วยทำให้ครีมแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
     3. ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทาเล็บที่เสริมความแข็งแรงให้กับเล็บ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Toluene sulfonamide หรือ Formaldehyde เพราะสารเคมีเหล่านี้จะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ และถ้าเป็นไปได้ควรใช้สารที่เป็นธรรมชาติจะดีที่สุด


     4. ควรใช้ผลิตภัณฑ์พวก Nail Polish ซึ่งจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ที่เล็บได้ โดยควรจะล้าง Nail polish ออกและทาใหม่ทุกอาทิตย์
     5. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างเล็บที่มีส่วนประกอบของ Acetone เพราะจะทำให้เล็บแห้งได้ และไม่ควรใช้มากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์
     6. ควรรับประทานอาหารเสริมพวก Biotin แนะนำให้รับประมาณในปริมาณ 2.5 มิลลิกรัมเป็นประจำทุกวัน เพราะ Biotin จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บได้
     7. การรับประทานที่ครบถ้วนก็มีผลต่อสุขภาพเล็บเช่นกัน ควรรับประทานผักผลไม้เป็นประจำอยู่เสมอ รวมทั้ง นม น้ำมันมะกอก ถั่ว เนยแข็ง ผักขม และปลา ด้วย

ที่มา : https://sites.google.com

Categories:

Leave a Reply

    Blogger news

    Blogroll

    About